วันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2557
มาทำความเข้าใจ การขายยาหมอเส็ง เสียใหม่
เอาง่ายๆนะ หมอเส็ง ก็คือ หมอยาไทย+จีน ที่ฉลาดในการรักษาโรคยังไม่พอ ยังฉลาดในการทำการค้า ถามว่าฉลาดสองเรื่องนี้ ทำให้หมอเส็งประสบความสำเร็จเป็นหมอแผนไทย-จีน ที่ร่ำรวยหรือไม่ ไม่เลย เรื่องที่มองไม่เห็นวัดกันด้วยเครื่องมือไม่ได้ แต่มีอยู่จริงคือ บุญบารมี ที่สั่งสมมา และที่ทำในชาตินี้ด้วยที่เห็นชัดที่สุดคือความกตัญญูและการรู้จักกราบไหว้บูชา โดยเฉพาะองค์ลื่อต้งปิน ที่บริษัทนั้นเอง
เพราะงั้น ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จบ้าง อย่าดีแต่เอายาตราหมอเส็งไปขาย ดีแต่ปากชักชวนคนเชื่อแบบงมงายหรือโฆษณาเพื่อให้ได้เงินเขามาใช้ให้ตัวคุณเองร่ำรวย อย่าเชียว บาปที่สุด และจะอยู่ได้ไม่นาน สิ่งที่ควรทำคือ ให้ความรู้ทางด้านสุขภาพตนเองด้วยการไปเรียนแพทย์แผนไทยเพิ่ม และให้ความรู้ผู้อื่นในส่วนนี้ด้วย ถ้าคุณมีความรู้ดีและรู้จักใช้ยาใช้ของแนะนำได้ก็ได้ผลดี ลูกค้าก็จะตามมาเองครับ ผมรับประกันได้ด้วยประสบการณ์ ที่เหลือก็ต้องวาสนาบารมีที่คุณสร้างมาหนะหละ ไม่งั้นทุกๆคนก็รวยเท่าหมอเส็งหมดแล้ว ผมเลยไม่อยากให้คุณขายยาหมอเส็งเพื่อเป็นอาชีพที่จะรวย รวย รวย แต่อยากให้คุณขายเพราะเป็นการแนะนำยาดีๆให้คนได้รู้จัก แน่นอนยาหมอเส็งถือว่า แพง ครับ เพราะมันมีต้นทุนนอกจากสมุนไพรแล้ว ยังมีค่าจ้างลูกจ้าง ค่าโฆษณา ค่าโลจิสติกส์ ค่าแบรนด์ และค่าความรู้ความสามารถสารพัดบวกลงไป แต่ดูเถอะ มันไม่ได้แพงกว่าพวกยาฝรั่งที่เอามาขายคนไทยหรอก เพราะฉะนั้น นี่คือยาที่คนไทยทำ คนไทยคิดค้น เราเป็นคนไทยควรช่วยกันส่งเสริม อย่าคิดว่าทำไปๆก็หมอเส็งนั่นหละ รวยสุด ก็ขอพูดตรงๆ ณ ตรงนี้ ไม่ผิดอย่างที่คุณคิดหรอก เขาเป็นโต้โผใหญ่ก็ต้องรวยที่สุดหนะหละ ต่อให้ใช้คำพูดทางจิตวิทยาใดๆมาลวงล่อว่าคุณก็รวยได้ เอาเข้าจริง คุณได้ เขาก็ต้องได้ด้วย เพียงแต่ว่า เรามามองว่า สิ่งที่เราได้รับ ทั้งสุขภาพที่ดี ยาดี และเงินดีนั้น คุ้มค่ากับ ทุนทางเวลาที่เราเสียไปหรือไม่ ขายของอย่างอื่นคนเค้าไม่จดจำคุณมากนะ แต่ถ้าขายของทางสุขภาพพวกนี้ ถ้าดีจริงเค้าก็นึกถึงคุณไปตลอด แต่ถ้ามันไม่ดีจริง คุณก็จะโดนเค้าแช่งเค้าบ่นไปตลอดเหมือนกัน จำเอาไว้ แต่ที่พูดมาทั้งหมดคุณไม่มีทางได้สัมผัสหรอก หากไม่ลองเข้าหามันดู ติดต่อมาได้ที่ moreceng@gmail.com (กรุณาส่ง ชื่อ-สกุล + เบอร์โทรกลับติดต่อ + วันเดือนปีเกิดเวลาเกิดมาด้วยหากต้องการสมัครสมาชิก)
ลองอ่านประวัติของเค้าดู
ฉัตรชัย แสงสุริยะฉัตร แพทย์ที่ปรึกษา คลีนิค สุขภาพไตรเวชศาสตร์ด้านการแพทย์แผนตะวันออก หรือที่รู้จักกันดีในนาม “หมอเส็ง” หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรไทยและจีน ด้วยวัยกว่า 60 ปี กับการคลุกคลีอยู่กับร้านขายยาแผนโบราณมาตั้งแต่ครั้งยังเด็ก หมอเส็งจึงได้เรียนรู้ทุกขั้นตอนในการปรุงยาอย่างละเอียดและจดจำตัวยาสมุนไพรทุกชนิดได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะการ ผลิตหรือการปรุงยาจากสมุนไพรไทยและจีน ซึ่งสมุนไพรทั้งสองชนิดนี้มีความคล้ายคลึงกันมาก ที่นับวันจะมีผู้เชี่ยวชาญอยู่น้อยคนเต็มที เพราะนอกจากจะอาศัยความรู้ความชัดเจน ในเรื่องสมุนไพรแล้ว ยังต้องมีประสบการณ์อันยาวนาน ซึ่งประสบการณ์ ความสามารถเหล่านี้
ภูมิลำเนาเดิมของหมอเส็งอยู่ที่บางคล้า อำเภอแปดริ้ว เปิดเป็นร้านรักษาโรคทั่วไป และขายยาสมุนไพร ทั้งตระกูลของหมอเส็งเป็นหมอยา (ทั้งก๋งและเตี่ย) ซึ่งมีความรู้ความสามารถและมีความชำนาญด้านการใช้สมุนไพรมาเป็นระยะเวลานาน เตี่ยของหมอเส็งเป็นหมอยามาจากประเทศจีน ท่านสอนหมอเส็งเกี่ยวกับเรื่องการใช้สมุนไพรชนิดต่างๆ และเรียนรู้ถึงสรรพคุณและคุณสมบัติของสมุนไพรหลากหลายชนิด ซี่งการศึกษาการแพทย์แผนโบราณนั้นเป็นเรื่องที่มีความยากมาก
เพราะว่าถ้าจะรักษาการเจ็บป่วยด้วยสมุนไพรให้ถูกหลักถูกวิธีและให้ส่งผลหรือออกฤทธิ์รักษาอาการเจ็บป่วยอย่างได้ผล ต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้และมีความแตกฉาน เพราะว่าเราไม่สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยอย่างได้ผลด้วยสมุนไพรเพียงชนิดเดียว ต้องนำสมุนไพรแต่ละชนิดนำมาผสมผสานกันจึงจะสามารถรักษาโรคอย่างได้ผล และจะต้องมีการตรวจหรือวินิจฉัยโรคของคนป่วยอย่างถี่ถ้วนเสียก่อน จึงจะปรุงยารักษาให้ ซึ่งสิ่งต่างๆที่ได้กล่าวมานี้หมอเส็งได้รับการถ่ายทอดและเรียนรู้มาอย่างลึกซึ้ง
จนกระทั่งวันหนึ่ง หมอเส็งได้แยกตัวออกมาเปิดร้านขายยาสมุนไพรของตัวเองที่กรุงเทพฯ รักษาโรคทั่วไปและทำงานเป็นหมอเช่นเดียวและคู่กับเตี่ยมาตลอด จนเตี่ยเห็นว่าความรู้ความสามารถของหมอเส็งเป็นที่เชื่อถือและไว้วางใจได้แล้ว เตี่ยของหมอเส็งจึงได้วางมือเนื่องจากท่านอายุมากแล้ว หลังจากนั้นหมอเส็งจึงได้ไปสอบใบอนุญาต ด้านเภสัชกรรมและเวชกรรมจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งบุคคลที่จะไปสอบใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขได้นั้น จะต้องมีความรู้ด้านสมุนไพรเป็นอย่างดี ไม่ใช่ว่าใครๆก็สามารถไปสอบได้ ซึ่งเมื่อสมัยนั้นร้านขายยาแผนโบราณยังมีไม่มากนัก ต่อเมื่อมียาแผนปัจจุบันเข้ามา หมอเส็งก็ขายยาแผนปัจจุบันควบคู่กันไปด้วย ทั้งขายทั้งเป็นหมอไปในตัว พอมาระยะหลัง ยาแผนปัจจุบันเริ่มมาแรง ผู้คนหันไปนิยมกันมากขึ้นด้วย เหตุเพราะกินง่ายและไม่มีกลิ่นฉุนเหมือนยาแผนโบราณ ขณะเดียวกันการแข่งขันของยาแผนปัจจุบันได้ขยายตัวสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว หมอเส็งจึงหันมาเน้นในเรื่องของสมุนไพรทั้งไทยและจีนตามที่ตัวเองถนัดมาก ขึ้น โดยเฉพาะการรักษาโรคเกี่ยวกับสตรี ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ เลือดลม หรืออาการทางสมองที่เรามักจะพบในคนสูงอายุ และล่าสุดที่ หมอเส็งได้เพียรพยายามศึกษามากกว่า 10 ปี นั่นก็คือมหัศจรรย์ “ว่านชักมดลูก”แห่งสมุนไพรไทย ถึงวันนี้ท่านที่ทำงานอยู่ในแวดวงการธุรกิจขายตรงคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่รู้จักหรือไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของ บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการสมุนไพรที่มีชื่อว่า “แสงสุริยะฉัตร 2002 จำกัด” โดยคุณ ฉัตรชัย แสงสุริยะฉัตร หรือ คุณหมอเส็ง ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนไทยโดยใช้สมุนไพร วันนี้เราจะมาทราบถึง ประวัติ บริษัทของคุณหมอเส็ง ว่ามีจุดเริ่มต้นและมีความเป็นมาจนกระทั่งสืบเนื่องมาถึงปัจจุบันอย่างไร
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น